ประเทศไทยอากาศ ‘เย็นวูบวาบ’ ที่แท้เกิดปรากฏการณ์ Polar Vortex

ประเทศไทยอากาศ ‘เย็นวูบวาบ’ ที่แท้เกิดปรากฏการณ์ Polar Vortex

ประเทศไทยอากาศเย็นวูบวาบ ในเดือนเมษายน ที่แท้เกิดปรากฏการณ์ Polar Vortex ไออุ่นนอกพื้นที่เบียดรุกเข้าสู่แดนขั้วโลก หลาย ๆ คนคงรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นลงทั้ง ๆ ที่กำลังเข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัวอย่างนี้ ทางด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเผยสิ่งนี้เรียกว่า ‘ปรากฏการณ์ Polar Vortex’

“อากาศที่เย็นลงในไทยแบบวูบวาบนี้ สิ่งที่ต้องเร่งดูแล 

นอกจากคนให้มีที่นอนที่อบอุ่นเพียงพอแล้ว สัตว์เองก็จะประสบปัญหาความหนาวเย็นที่เค้าอาจปรับตัวไม่ทันเช่นกัน นี่คือผลของภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ climate change ที่เกิดจากอุณหภูมิภายในขั้วโลกทั้งสอง เกิดอาการหนาวน้อยลงในบางจุด หรือบางจุดมาจากไออุ่นนอกพื้นที่เบียดรุกเข้าสู่แดนขั้วโลก

น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้กระแสลมที่เคยพัดวนทวนเข็มนาฬิกาด้วยความเร็วเฉลี่ย 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปกติหมุนพัดที่ความสูง 10กิโลเมตรจากพื้นดินรอบเขตขั้วโลกมานับล้านปีเกิดสะดุด

กำแพงลมนี้เป็นเสมือนปราการธรรมชาติที่เคยขังไอเย็นไว้ในขั้วโลก บัดนี้เริ่มมีจุดที่มันยืดย้วยออกเป็นห้วงๆ เพราะไออุ่นจากมหาสมุทรและแผ่นดินทวีปบางย่านที่มากขึ้นลอย ไปกระทบกำแพงลม ทำให้ลมหมุนถูกเบี่ยงเบน อ้อมออกจากเส้นทางเดิมๆ

ทีนี้ไอเย็นก็ขยายออกตามลงมา แล้วแต่ว่ารอยยืดนั้นไปเกิดในจุดไหน พอจุดนั้นยืดย้วย ก็จะดันเอาอากาศชุดที่ติดกับมันให้ดันกันต่อไปสู่เขตอื่น แม้แต่เขตอากาศของเส้นศูนย์สูตร ความเยือกเย็นจึงถูกดันมาเป็นทอดๆ ปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า Polar Vortex

แม้จะย้วยมาเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ชี้ให้เราตระหนักว่า โลกใบนี้เล็กกว่าที่เราเคยรู้จัก สิ่งที่เกิดกับภาวะโลกร้อน ที่ขั้วโลกเหนือ สะเทือนมาถึงเส้นศูนย์สูตรได้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน ในทางกลับกัน กำแพงลมเย็นที่ถูกไออุ่นเบียดให้แคบลงก็แปลว่าจะมีไอร้อนเบียดเข้าหาขั้วโลกเช่นกัน

ปีนี้เราคงได้เห็นสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นผลตามมา

ศกพ. คาดการณ์ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล​ 7 วันข้างหน้า​ จะเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นระหว่างวันที่ 4-10​ มกราคม 2565 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และลมอ่อนในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาเริ่มทำงานของประชาชนหลังจากวันหยุดยาว

ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองสะสมสูงขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ศกพ. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จำเป็น เฝ้าระวังรักษาสุขภาพอนามัย และตรวจสอบคุณภาพอากาศจาก Air4Thai ก่อนออกจากบ้าน หากท่านอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณ PM2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้ม ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ฉบับที่ 6 ไทยตอนบนเจอฝนฟ้าคะนองหนัก

อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 3 เมษายน 2565) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 6 ลงวันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 17.00 น.

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่เข้ามาปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกในระยะถัดไป

ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงมีฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในระยะนี้

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณตอนใต้ของประเทศกัมพูชาและปลายแหลมญวน มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 2–3 เม.ย. 65 ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Credit : paydexengineering.com peaceinkenya.net portengine.net postmorebills.net priceslevitraonline.com propeciaofcourse.com propeciaordercanada.net raceimages.net ragingbunnies.net raisemoneyonline.net